รัน วิธ ต๊อด ปี 2 สุดคึกคัก “อนุชา-อรฤทัย” ครองแชมป์ มอบรายได้เป็นทุนการศึกษา นร.ยากจน

บรรยากาศงานวิ่งการศุกล “รัน วิธ ต๊อด” ปีที่ 2 เป็นไปอย่างคึกคัก

บรรยากาศงานวิ่งการศุกล “รัน วิธ ต๊อด” ปีที่ 2 เป็นไปอย่างคึกคัก มีนักวิ่งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งมาร่วมทำบุญ เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจาก “รัน วิธ ต๊อด” มอบให้กับ มูลนิธิ ปิติ ภิรมย์ภักดี เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

เหล่านักวิ่ง ร่วมสัมผัสความพิเศษของการแข่งขัน เนื่องจากเป็นงานวิ่งงานแรก และงานเดียวเท่านั้น ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปสัมผัส “พีระเซอร์กิต” แทร็กระดับตำนาน ที่มีอายุเกือบ 34 ปี ในบรรยากาศของการวิ่ง และยังเป็นงานวิ่งหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้รูปแบบการ
แข่งขัน และกฎกติกาเดียวกันกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ
ในส่วนผลการแข่งขันนั้น ประเภท “โซโล” ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบนับรอบเหมือนกันกับการแข่งรถยนต์ นักวิ่งต้องวิ่งในสนาม จำนวน 3 รอบ (ระยะทาง 1 รอบสนาม คือ 2.41 กม. วิ่งครบ 3 รอบเท่ากับ 7.23 กม.) ปรากฏว่า ประเภททั่วไป ชาย อันดับ 1 ได้แก่ อนุชา เจริญภักดี เวลา 25.28 นาที, อันดับ 2 กิติภพ ธรรมดี เวลา 27.29 นาที, อันดับ 3 ธเนศ จิตเมือง เวลา 29.58 นาที ส่วนประเภททั่วไป หญิง อันดับ 1 อรฤทัย ชูทอง เวลา 32.35 นาที, อันดับ 2 กรรณิการ์ ภาณุวัฒน์พงษ์กุล 34.43 นาที, อันดับ 3 กุลวิภา ภาณุวัฒน์พงษ์กุล เวลา 39.34 นาที
ส่วนผลประเภท “เอ็นดูแรนซ์ เรซ” ซึ่งแข่งขันในรูปแบบเดียวกับการแข่งขันเอ็นดูแรนซ์ของรถยนต์ โดยเป็นการวิ่งประเภททีม ซึ่งในหนึ่งทีมมีนักวิ่ง 2-3 คน และสามารถผลัดกันวิ่งให้ครบ ทีมละ 3 รอบสนาม ปรากฏว่า ทีมที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดและรอบสะสมมากที่สุด ทีมชาย แชมป์คือ ทีมบี ได้แก่ พรวศิน นิดดา และ สราวุธ รุ่งสี เวลา 25.15 นาที ขณะที่ทีมหญิง อันดับ 1 ทีมวิ่งป่ะหล่ะ ได้แก่ วิลาภรณ์ เสมาทอง และ ขนัตยา สีดาพล เวลา 48.36 นาที และทีมผสม อันดับ 1 ได้แก่ ทีมซี ณัฐกฤตา สล็อต เล่นฟรี พรหมชาติ และ อนุชาติ นิดา เวลา 33.44 นาทีหลังการแข่งขัน ได้มีพิธีมอบเงินรายได้ให้กับ มูลนิธิ ปิติ ภิรมย์ภักดี เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และต่อด้วยกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตของ จิรากร สพิทักษ์หรือที่รู้จักกันในนาม “เอ๊ะ จิรากร” เพื่อให้บรรดานักวิ่งและผู้ร่วมงานได้ผ่อนคลาย

 “บิ๊กต๊อด” นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ความพิเศษของรายการนี้คงจะหนีไม่พ้นการที่นักวิ่งได้มาวิ่งบนสนามแข่งรถยนต์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักแข่งหรือคนทั่วไป แทบจะไม่มีโอกาสได้วิ่งบนสนามแข่งรถแห่งนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้การแข่งขันรถและการวิ่งมาอยู่ด้วยกันบนสนามแข่งรถตำนานของประเทศไทย ที่พีระ เซอร์กิต สำหรับเส้นทางการวิ่งนั้น ในแต่ละโค้ง มีรถแข่งประจำจุดอยู่ เพื่อให้นักวิ่งได้ร่วมสนุกถ่ายภาพเซลฟี่กันด้วย ซึ่งก็จะเป็นข้อแตกต่างจากการวิ่งครั้งอื่นๆ

“วัตถุประสงค์หลักของการจัดวิ่งรายการนี้เป็นการหารายได้เข้ามูลนิธิ ปิติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งก่อตั้งมา 4 ปีแล้ว และเป็นมูลนิธิที่ดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กที่ไม่มีทุนทรัพย์ เงินทุกบาททุกสตางค์จะนำไปช่วยเด็กๆ ที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง และมอบไปยังโรงเรียนที่ยังไม่มีระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม โดยรายการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 และด้วยสถานที่กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ สามารถรองรับนักวิ่งได้ประมาณ 1,000 คน เพราะหากมากกว่านี้ อาจทำให้ดูแลนักวิ่งได้ไม่ทั่วถึง และนอกจากการวิ่งที่สนุกสนานแล้ว ยังมีอาหารที่อร่อย และมีคอนเสิร์ตต่อจากการแข่งขันด้วย” บิ๊กต๊อด กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องไม่ลับ! ‘โยโกฮามา เอฟ มารินอส’ สโมสรความท้าทายใหม่ของธีราทร

เป็นอันว่าดีลของ ธีราทร บุญมาทัน ถือว่าเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทางประธานสโมสรโยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมยักษ์ใหญ่ของศึกเมจิ ยาสุดะ เจ 1 ลีก เดินทางมาแถลงข่าวเปิดตัวดาวเตะชาวไทยรายนี้ด้วยตนเอง

-สถิติที่ไม่เคยตกชั้นนั้นเองทำให้ผลงานของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส อยู่ในระดับที่ดีอย่างมาก เมื่อพวกเขาสามารถคว้าเเชมป์เจลีกมาได้ถึง 3 ครั้งในฤดูกาล 1995, 2003 เเละ 2004 เเละสามารถคว้าเเชมป์ J.League Cup ได้หนึ่งครั้งในฤดูกาล 2001 ส่วนถ้วย Emperor’s Cup นั้นสามารถคว้าเเชมป์มาได้ 2 ครั้งในฤดูกาล 1992 กับ 2013 ส่วนผลงานในถ้วยระดับเอเซียนั้นพวกเขาสามารถคว้าเเชมป์ Asian Cup Winners’ Cup ในสมัยนั้นได้ 2 ครั้งติดต่อกันคือในฤดูกาล 1992 เเละ 1993

-ในปี 1999 โยโกฮามา เอฟ มารินอส เกิดจากการรวมตัวของ โยโกฮามา มารินอส กับ โยโกฮามะ ฟลูเกลส์ (คู่แข่งร่วมเมือง) ทำให้พวกเขาตัดสินใจเติมอักษร “F” ลงไปในด้วย และนั่นก็คือที่มาของชื่อทีมในปัจจุบัน ส่วน “มารินอส” นั้นหมายถึงกะลาสีเรือในภาษาสเปน เนื่องจาก โยโกฮามา เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ASIAXX1 และนั่นก็เปิดโอกาสให้กีฬาฟุตบอลได้ยกพลขึ้นบกมาพร้อมๆกับเหล่าทหารเรือหลายเชื้อชาติ ในช่วงศตวรรษที่ 19สนามเหย้าคือ สนามกีฬานานาชาติโยโกฮามา หรือรู้จักในชื่อ นิสสัน สเตเดี้ยม เป็นสนามกีฬาในโยโกฮามา จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดใช้งานในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1998 ถือเป็นหนึ่งในสนามความภูมิใจของคนญี่ปุ่น ที่รองรับแฟนบอลได้มากถึง 72,000 คน ด้วยที่นั่ง 2 ชั้นทั้ง 2 ฝั่งของสนามและลู่วิ่งที่ล้อมรอบ สนามฟุตบอลแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2002 มาแล้ว และในรอบชิงชนะเลิศ ที่บราซิลคว้าชัยเหนือเยอรมัน 2-0 ก็เกิดขึ้นที่นี่ นอกจากนี้บางครั้งยังถูกใช้งานเพื่อรองรับทีมชาติญี่ปุ่นอีกด้วย

-

มารินอส ใช้เสื้อสีน้ำเงินและแดง กางเกงสีขาว ซึ่งนั่นทำให้ “Tricolore” กลายเป็นชื่อเรียกแฟนๆของพวกเขา การออกแบบส่วนใหญ่ในหลายปีที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่ดึงเอาองค์ประกอบมาจากเครื่องแบบของกะลาสีเรือ และในช่วงหลังก็ได้เพิ่มลวดลายของนกนางนวล และสมอเรือเข้าไปด้วยมาสคอต ดั้งเดิมของสโมสรมีชื่อว่า มารินอสคุง เป็นนกนางนวลซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของโยโกฮามาอยู่แล้วนั่นเอง ต่อมามีการเปิดตัวหลานชายของ มารินอสคุง ชื่อว่า มาริโนะซุเกะ ในปี 2000

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เปิดวาร์ป Yamin May Oo สาวเมียนมาร์วัย 22 เจ้าของความน่ารักที่ทำให้โลกดูสดใส!!

กลับมาอีกครั้ง ปฏิทินนักดับเพลิงหนุ่มออสเตรเลีย ประจำปี 2020 เอาใจคนรักสัตว์จริงๆ นะ!!

ที่มาแมวไทยมงคล 4 สายพันธุ์ ที่ทาสแมวทั้งหลาย ต้องรู้จักไว้ให้ดี…